การลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมการเดินเรือเป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเร่งด่วน

งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Partnerships for Infrastructure (P4I) ซึ่งจัดโดยรัฐบาลออสเตรเลีย โดยนำผู้แทนจากเวียดนาม มาเลเซีย ไทย และประเทศเจ้าภาพมาร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์และส่งเสริมความร่วมมือในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคส่วนการเดินเรือ ในงานประชุม VIMC ได้กล่าวสุนทรพจน์สำคัญ โดยเน้นที่ความพยายามและแนวทางของเวียดนามในแนวโน้ม "การทำให้เป็นสีเขียว" ในอุตสาหกรรมการเดินเรือ

ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อลดการปล่อยมลพิษในการขนส่งทางทะเล

เนื่องจากประเทศต่างๆ เร่งดำเนินการตามพันธกรณีในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความเป็นกลางทางคาร์บอน การประชุมที่เมลเบิร์นจึงได้รับการออกแบบให้เป็นฟอรัมระดับภูมิภาคสำหรับความร่วมมือเชิงลึกเพื่อแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางแก้ไขเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมการเดินเรือ โปรแกรมการประชุมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 ถึง 28 มิถุนายน 2025 โดยมีการอภิปรายเชิงลึกมากมายเกี่ยวกับหัวข้อหลัก 5 หัวข้อ ได้แก่ การปรับปรุงนโยบายและมาตรฐานเพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเชื้อเพลิงท่าเรือที่สะอาด การรับรองความปลอดภัยเมื่อใช้เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ การส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียวอย่างเท่าเทียมกัน และการระดมเงินทุนที่ยั่งยืนสำหรับโครงการลดการปล่อยก๊าซ

คณะผู้แทนจากกองบริหารการเดินเรือเวียดนามและ VIMC เยี่ยมชมท่าเรือเมลเบิร์น

ผู้แทนจาก 3 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และไทย ได้เข้าร่วมกิจกรรมที่หลากหลายร่วมกับผู้แทนจากออสเตรเลีย เช่น การสำรวจท่าเรือเมลเบิร์นและท่าเทียบเรือตู้คอนเทนเนอร์อัตโนมัติ VICT การเยี่ยมชมศูนย์วิจัยพลังงาน CSIRO เป็นต้น การหารือเน้นไปที่การสร้างเส้นทางการขนส่งสีเขียว การกำหนดมาตรฐานเชื้อเพลิงสะอาด การฝึกอบรมทรัพยากรบุคคลสำหรับช่วงเปลี่ยนผ่าน รวมถึงการริเริ่มด้านดิจิทัล การเปลี่ยนอุปกรณ์ให้เป็นไฟฟ้า และการจ่ายไฟฟ้าจากฝั่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของท่าเรือ

บทบาทและความรับผิดชอบของสายการเดินเรือแห่งชาติเวียดนาม

ในฐานะองค์กรสำคัญในอุตสาหกรรมการเดินเรือของเวียดนาม VIMC กำลังดำเนินการตามกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสีเขียวอย่างแข็งขันเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในการประชุมที่เมลเบิร์น Nguyen Ngoc Anh รองผู้อำนวยการทั่วไปของ VIMC เป็นตัวแทนของเวียดนามในการนำเสนอรายงานเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันและแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรม เขากล่าวว่าเวียดนามมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งสอดคล้องกับพันธสัญญาในการประชุม COP26 และเป้าหมาย NDC ภายใต้ข้อตกลงปารีส

เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เวียดนามโดยทั่วไปและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง VIMC กำลังแสวงหาวิธีแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์เพื่อลด "รอยเท้าคาร์บอน" ในกิจกรรมทางทะเล โดยเวียดนามได้กำหนดวิธีแก้ปัญหาหลายประการให้เป็นภารกิจหลักเพื่อสนับสนุนกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่สีเขียว ได้แก่ การปรับปรุงสถาบัน นโยบาย การวางแผน การใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐานทางทะเลสีเขียว การเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและลดการปล่อยมลพิษ ความร่วมมือระหว่างประเทศ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และทรัพยากรมนุษย์ และการดำเนินการท่าเรือสีเขียว

ในส่วนของบริษัทฯ VIMC มุ่งเน้นการพัฒนาระบบท่าเรือตามรูปแบบ “ท่าเรือสีเขียว - ท่าเรืออัจฉริยะ” ส่งเสริมการเปลี่ยนอุปกรณ์บรรทุกและขนถ่ายสินค้าเป็นไฟฟ้า และเปลี่ยนการบริหารจัดการท่าเรือให้เป็นระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน

นายเหงียน หง็อก อันห์ รองผู้อำนวยการใหญ่ VIMC กล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุม

“การเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมการเดินเรือไม่เพียงแต่เป็นแนวโน้มที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น แต่ยังเป็นภารกิจเร่งด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าการพัฒนาจะยั่งยืน VIMC มุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามกลยุทธ์ระดับชาติเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ผ่านชุดความคิดริเริ่มเพื่อยกระดับกองเรือและท่าเรือให้เป็นไปในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายเหงียน ง็อก อันห์ ยืนยันในการประชุม

คำชี้แจงของผู้แทน VIMC แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่างๆ ของเวียดนามในการมีส่วนสนับสนุนในการบรรลุเป้าหมายร่วมกันของโลก นายอันห์ยังเน้นย้ำว่ากระบวนการ "ทำให้กองเรือและท่าเรือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" ต้องใช้ทรัพยากรการลงทุนจำนวนมหาศาล รวมถึงการประสานงานนโยบายและเทคโนโลยีในระดับโลกอย่างสอดประสานกัน ดังนั้น VIMC จึงส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือระหว่างประเทศและแสวงหาการสนับสนุนทางเทคนิคและทางการเงินจากหุ้นส่วนการพัฒนาเพื่อเร่งดำเนินการตามแผนงานลดการปล่อยมลพิษ

ที่มา: https://vimc.co/reducing-carbon-emissions-of-the-sea-industry-is-an-essential-and-urgent-problem/